ข้อควรรู้ก่อนที่จะมาประเทศออสเตรเลีย!!!
/ วีซ่า / วีซ่าออสเตรีย / ข้อควรรู้ก่อนที่จะมาประเทศออสเตรเลีย!!!
ข้อควรรู้ก่อนที่จะมาประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย Arriving Australia
เมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลีย ท่านต้องแสดงหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าที่กรอกเรียบร้อยแล้วแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนก่อนที่จะไปรับกระเป๋า จากนั้นให้ไปยังจุดตรวจศุลกากรฯและด่านกักกัน และทำตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้า
When you arrive Australian you have to have a valid passport and arrival form and show to the counsel officer
เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้าอาจทำการเอ็กซเรย์หรือตรวจค้นสัมภาระของท่านเพื่อตรวจหาสินค้าต้องห้าม สินค้าต้องกำจัด หรือสินค้าที่ต้องเสียภาษีอากร และอาจมีคำถามที่ต้องถามท่าน.
คำแนะนำ
1. กรอกแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าขณะที่ท่านยังอยู่บนเครื่องบิน – จะช่วยท่านประหยัดเวลา เมื่อเครื่องจอด
2. เตรียมหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าไว้ให้พร้อมเพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดน
3. สำแดงสินค้าทุกรายการที่เป็นยาและเวชภัณฑ์ อาหาร พืช และสินค้าจากสัตว์ หรือสินค้าอื่นที่ระบุไว้ในส่วนของสินค้ากักกัน ไว้ในแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้า
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านทราบปริมาณของสินค้าปลอดอากรที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนอนุญาตให้นำเข้าก่อนที่จะเริ่มการซื้อสินค้า.
การจำกัดจำนวนของเหลว แก๊ส และเจล
เที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออกของประเทศออสเตรเลียใช้ข้อบังคับการตรวจหาของเหลว สเปรย์ และเจล ทุกเที่ยวบิน
ไม่มี Passport ก็ไปไม่ได้ … ต้องทำ passport ก่อนนะ
พาสปอร์ต (Passport) คือหนังสือเดินทางที่จะยืนยันว่าเราเป็นคนไทย เรามีชื่อ มีอายุ เท่าไหร่ เพศนี้ ทุกคนไทยมีสิทธิ ทำ พาสปอร์ต เมื่อเรามีอายุ 20 ปีขึ้นไป ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปี พ่อ แม่ต้องทำให้เรา
เอกสารที่จะต้องใช้ในการทำ พาสปอร์ต ต้องมี
1. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน
2. ถ้าเคยเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุลเราต้องมีใบเปลี่ยนชื่อเอาไปด้วย
3. ถ้าคุณมีใบสมรส หรือใบหย่าก็ให้เอาไปด้วยนะ
4. อย่าลืมเอาใบสำเนาทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนาเอกสารไปทุกอย่างนะ
5. ค่าจ่ายประมาณ 3,500 บาท
ประเทศ ออสเตรเลีย เหมือนๆกับหลายประเทศ เขากลัวอยู่ 3 เรื่อง คือ
1.กลัวเราถูกหลอกไปขายหรือทำงานเหมือนกับทาส
2. กลัวเราไปเที่ยวแต่แอบไปทำงาน
และ 3.กลัวว่าไปแล้วไมยอมกลับ … ที่เรารู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย!
แต่อย่างไรก็ตามเราต้องทำให้เขามีความมั่นใจว่าปลอดภัยและสมัครใจไปเอง ตามกฎของวีซ่าเราจะต้องกลับบ้านตรงเวลาที่กำหนดแน่ๆ เขาต้องมั่นใจว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้บ้างและถ้าเรามีความมั่นใจเต็มที่ ว่าเราเป็นคนดี เรามีสิทธิที่จะขอไปได้ทุกที่ และดีถ้าเรารู้ข้อมูลบ้างเกี่ยวประเทศออสเตรเลีย ไม่ได้ไปมือเปล่าๆ
แต่เขามีความมั่นใจกับ เอกสารด้วย ก่อนไปขอเราต้องเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
ครั้งแรกตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวเท่านั้นหรืออยากจะไปหาที่ เรียน หรือ อยากทำงานด้วยไม่ผิดกฏวีซ่า ถ้าทำผิดกฏวีซ่าและถ้าถูกจับเค้าจะเอาเราไปไว้ที่สถานกักกันและต้องมีการส้มภาษณ์โดยเราต้องขอล่ามแปลและถ้าเรามีตั๋วเครื่องบินพร้อมก็ไม่ต้องอยู่ในนั้นนานขอทำเรื่องกลับบ้านได้เลยและอีก 2-3 ปีให้หลังก็สามารถกลับมาได้อีกไม่ว่าทำเรื่องแต่งงานหรือมาเที่ยวและที่ได้ยินมาทางสถานกักกันเค้าอาจคิดค่าอยู่ในนั้นเป็นจำนวนเงินเท่าไรไม่รู้ ถ้า เขาคิดว่าเราถูกหลอกไปหรือเขาเรียกว่า ถูกค้ามนุษย์ Trafficking เขาอาจจะใช้กฏหมายการค้ามนุษย์ได้ เราไม่ผิดอะไร ไม่เสียค่าปรับ แต่ต้องรอที่จะเป็นพยานในศาลก่อน ในขณะที่รอเพื่อเป็นพยานเค้าจะมีที่อยู่ให้และสามารถทำงานบริการได้จนกว่าศาลพิจราณาว่าเป็นความจริงและอาจจะได้อยู่ในประเทศออสเตรเลีย
วีซ่า นักทองเที่ยว Tourist Visa
Tourist Visa คือวีซ่าขอไปเที่ยว ไปเที่ยวได้ ไม่เกิน 3 เดือน อายุของเราไม่เกี่ยว แต่ห้ามไปทำงานอะไรเลยไม่ว่า นวด สอนภาษา ทำงานในร้านอาหาร แม่บ้าน งานบริการ เก็บผลไม้ หรือ ทำงานที่บาร์ ก็ผิดกฎวีซ่าหมด
เอกสารต้องมีที่จะขอ Tourist Visa
1. กรอกแบบฟอร์ม ขอวีซ่า
- เราต้องเอาบัญชีเงินฝากของธนาคาร หรือ สะเตดเม้น (Bank Statement) ไปด้วย ค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละวันที่ออสเตรเลีย ประมาณ 7000 – 10000 บาท เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปเอง 3 เดือน เราต้องมีเงินฝากประมาณ 100,000 บาท อยู่ในแบงค์ หรือ ถ้าเรามีแฟนจะจ่ายให้ เราต้องมี จดหมายรับรองจากแฟนที่สัญญารับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายของเราทั้งหมดที่โน้น และ เขาต้องส่ง สะเตดเม้น (Bank Statement) ของเขามาด้วย และเราแค่ต้องมีเงินฉุกเฉินอยู่ในแบงก์ของเรา ประมาณ 10,000 – 20,000 บาท เท่านั้น
- เราต้องมีจดหมายรับรองจากที่ทำงาน ที่จะแสดงข้อมูลให้เขาดูว่าเราลาพักร้อนกี่เดือนถึงจะกับมาทำงานที่เดิม สถานทูตออสเตรเลียบอกเราว่าใช้จดหมายรับรองสถานที่บริการได้ แต่เราติดกลัวอยู่ด้วย ไม่กล้าเชื่อ แต่อยากลองจริง ๆ
- ถ้าเรามีสมบัติ หรือมีที่ดิน มีธุรกิจส่วนตัว เช่น นวด ร้านอาหาร ร้านขายของ ใช้ได้
- ต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อน และ ไปกับใบจอง อย่ารีบไปซื้อตั๋วก่อนนะ อาจจะเสียเงินได้
- รูปถ่ายเป็นรูปสี 2 นิ้ว 2 ใบ
- Passport เอาไปด้วย
- เอกสารไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย ท่องเที่ยวหรือ เยี่ยมญาติ, เพื่อน ควรจดเบอร์ โทรของบุคคลที่มารับเราที่แอร์พอร์ต เพื่อเป็นการง่ายต่อการติดต่อถ้าเกิดมีปัญหากับ ด่านตรวจ คนเข้าเมือง
มี Passport และ visa แล้ว เตรียมกระเป๋าได้แล้ว นะ
ไปจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินที่จองไว้แลัว ปกติไม่เกิน ประมาณ 30,000 บาทไป-กลับ และอย่าลืมว่ามี ตั๋วเครื่องบินโล คอส ด้วย เช่น ไป – กลับ 15,000 บาท ก็มี
ถ้าเรามี บัตร ATM ที่ มี คำว่า Plus เราเบิกเงินที่นั้นได้ ค่ากดครั้งละ 200 บาท แต่ถ้าบัตรหายลำบาก มาก ๆ เราต้องมีเงินสดไปด้วย 8,000 – 10, 000 บาท อย่างน้อย
ควรแลกที่ไทยได้มากกว่า แลกที่ออสเตรเลียได้น้อย ประมาน 28บาท = $ Aud 1
ติดต่อกับบริษัทมือถือที่เราใช้ ถามเขาว่าถ้าอยากใช้โทรศัพท์ของเราที่ประเทศออสเตรเลียเราต้องทำอย่างไร จริงๆ ซื้อซิมการด์ ที่โน้นจะ ถูกกว่า แต่อาจจะเปิดใช้ก่อนก็ได้ ถ้าเราต้องโทรก่อนที่จะซื้อได้
ปกติเรามี 2 กระเป๋า กระเป๋าที่อยู่กับเรา และ กระเป๋าที่ใส่สัมภาระที่จะต้องใส่เข้าไปกับเครื่องบิน เรียกกว่า เช็คแบก Checked bag.
กระเป๋าที่จะอยู่กับเรา นำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ใส่ เอกสารตัวจริงทั้งหมด พาสปอร์ต ตัวเครื่องบิน เงิน โทรศัพท์ และ สิ่งของที่มีค่าสูง
นอกจากนั้น ใส่ ปากกาและที่อยู่ออสเตรเลียเป็นภาษาอังกฤษ และ เบอร์ เราจะได้ติดต่อได้ มีเบอร์ติดต่อสถานทูต สการ์เล็ท และเพื่อนที่ออสเตรเลีย ปากกา-สมุดโน็ตอังกฤษติดใส่กระเป๋าไว้ ถ้าอยากใส่ แปลงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ น้ำหอม เจล ครีม ในกระเป๋าติดตัว ใส่ได้ แต่ทุกชนิดต้องเป็นขนาดเล็ก ๆ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม และต้องใส่ถุงพลาสติกให้เขามองเห็นได้ ถ้าจำเป็นมียาไปด้วยต้องการมีใบสั่งจากหมอ หรือต้องเห็นชัด ว่ายาชื่ออะไร
บนเครื่องบินอาจจะหนาว ใส่ ผ้าคลุม หรือ เสื้อแจ๊ทเก็ท ….
กระเป๋าใหญ่ Checked bag นำหนักไม่เกิน 20 กิโล เขียนชื่อเรากับเบอร์โทร ติดไว้กับกระเป๋าใหญ่ checked bag ผูกริบบิ้นเป็นเครื่องหมายไว้ เพื่อเราจะเห็นง่ายว่านี่เป็นกระเป๋าของเรา
ถ่ายเอกสาร พาสปอร์ต ตั่วเครื่องบิน ที่อยู่ถ่ายสำรองไว้เก็บในกระเป๋าใหญ่
นอกจากเสื้อผ้า ถ้าจะใส่ แชมพู น้ำหอม เจล ครีม ฯลฯ ใส่ได้เลย คุณสามารถเอาเหล้าไปได้ 1 ขวด บุหรี่ 10 ซองเท่านั้น
ประเทศออสเตรเลีย เป็นพื้นที่ที่มีสัตว์ และต้นไม้แปลกๆมากมาย เพื่อป้องกันประเทศของเขามีกฎห้ามนำ อาหาร ดอกไม้ ต้นไม้ หอย เข้าประเทศ ไม่มียกเว้น มาม่า พริก ข้าว น้ำปลา กล้วย ๆลๆ ห้ามเข้า แต่ข่าวดี ส่วนมากซื้อที่โน้นได้นะ ข้อควรระวัง ถ้าคนอื่นฝากของไปไม่ต้องรับฝากนะเพราะว่ามันจะยุ่งยากกับเรามาก ต.ม.เขาจะตรวจเราละเอียดมากๆ
เตรียมกระเป๋าแล้ว จะออกจากประเทศไทย
ต้องไปสนามบินเช็คอิน 2 ชั่วโมงก่อนเวลา เครื่องบินจะออก
ครั้งแรกดูที่ บอร์ดตารางเวลา เขามี การเข้า Arrivals และ การออก Departures (ดี-พาท-เทอร์) เราสนใจแค่ Departures ดูที่มี มีเครื่องบิน เวลาออก เข้า Check in ประตู เช่น Thai TG 1022 Syd 14:00 CHK-N Gate E 52
ไปที่ Check in และให้ ยื่น ตั๋วเครื่องบิน และ พาสปอร์ต (passport and ticket) ฝากกระเป๋า Check bag ไปแล้ว ถ้าอยากนั่งที่หน้าต่าง หรือ ที่อี่น ๆ รีบขอตอนนี้เลย
ได้รับ Passport คืน และ ใบ boarding pass เป็นใบแสดง หมายเลขเครื่องบิน ที่นั่ง เวลาขึ้นเครื่องบิน และขึ้นเครื่องบินที่ประตูหมายเลข… เขาจะให้เรากรอกแบบฟอร์มบัตรขาออกด้วย (Departure Card) เป็นภาษาไทย และกรอกแล้ว ไปยื่นให้ ที่ ต.ม. passport control ต.ม. เช็คเอกสารทั้งหมด ถ่ายรูปเรา สแตมป์ออกประเทศ
ติดต่อหาที่แลกเงิน ดอลล่าร์ออสเตรเลีย(ถ้าแลกเงินจากธนาคารข้างนอกสนามบินจะได้ราคาดีกว่า) เสร็จแล้ว เดินเข้า Duty free shopping คือร้าน ที่เราไม่ต้องเสียภาษี แต่อย่าเดินเพลิน จนตกเครื่องบินนะ เพราะยังมีโอกาสที่จะซื้ออีก ที่สนามบินออสเตรเลีย และ ในตอนกลับด้วย (อไรเวลฟ์ -การ์ด) Arrival – card ใบเข้าประเทศ ที่เราต้องกรอก ชื่อ,เลขที่ พาสปอรต์,เลขที่ วีซ่า; วันที่ พาสปอรต์ ออก,วันที่ พาสปอร์ต หมดอายุ; หมายเลข เครื่องบิน Flight number; ที่อยู่ที่ออสเตรเลีย และ อี่นๆ
มีแบบฟอร์มอีกอย่างหนึ่งเป็น Customs Card (คัสทอมส์ คาด) ใบสินค้า จะมีหัวข้อให้ตอบโดยให้ทำเครื่องหมายที่เรามีรายการของที่ต้องแสดงถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ขอแนะนำให้ถามแอร์โฮสเตท อธิบายหรือช่วยกรอกให้เรา
กรอกแบบ ฟอร์ม 2 ใบ เป็นภาษาอังกฦษ กรอกในเครื่องบินดีที่สุด ไม่เข้าใจขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆก็ได้
ถึงสนามบิน ออสเตรเลียแล้ว
ทุกคนต้องไปที่ ต.ม. ออสเตรเลีย (passport control)
เราต้อง ยื่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต (Passport and ticket) ;แบบฟอร์มที่กรอกในเครื่องบิน Arrival Card (อไรเวลล์ คาด) และ Customs Card (คัส์ทม คาด)
เขาเช็ค เอกสารของเรา ถ่ายรูป และเขาอาจจะมีคำถามๆ ด้วยว่า เรามาทำไม? พักที่ใหน ๆลๆ ไม่ต้องตกใจ หรือ รู้สึกอายเราตอบสิ่งที่เราเข้าใจและสิ่งที่ตอบได้ ถ้าเรางงมาก หรือไม่แน่ใจก็ขอให้เขาหาคนแปลให้หรือล่ามให้เรา (Translator ทรานสเลทเตอร์) นั้นเป็นสิทธิของเรานะ เมื่อเราผ่าน ต.ม. แล้ว เขาให้ เอกสาร และ สแตมป์ วันที่เข้า และเราได้อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ เท่าไหร่ด้วย ใน passportของเรา
เดินเข้า รอรับกระเป๋า (Baggage Collection) ในเวลานี้อาจจะเห็น หมา ตัวเล็ก น่ารัก วิ่งมาดมตามกระเป๋า เพื่อหายาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมาย รับกระเป๋าแล้วถ้าเรามีของที่ไม่แน่ใจว่าของเราจะผ่านการตรวจหรือเปล่า ให้เดินไปที่ประตู สีแดง (Red) และ ยื่นให้ customs card และ ให้เขา ตรวจกระเป๋า ถ้าไม่ผ่านเขาจะยึดไว้ แต่นั่นดีกว่าเราไม่บอกและถูกจับผิดได้ แต่ถ้าเรามีความมั่นใจไม่มีอะไรผิดในกระเป๋า 2 ใบ เดินไปที่ ประตุเขียว (Green) และยื่นให้ customs card และ เขาให้เราไปได้เลย หรือขอตรวจกระเป๋าก่อน (เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมีของแสดงหรือไม่กระเป๋าทุกใบจะต้องผ่านเอ็กซ์เรย์ )
ถ้าไม่เจอกระเป๋าหรือ กระเป๋าหายไปติดต่อเคาท์เตอร์สายการบินที่เรานั่งมา ตอนที่เราไปเช็คอิน มีบาร์โคด์ติดกระเป๋าและเขาก็จะเอาติดไว้ที่ตั๋วเครื่องบินด้วย และให้เก็บตั๋วเครื่องบินให้ดี หมายเหตุ ถ้าเราหากระเป๋าไม่เจอให้เดินไปหาที่อินโฟเมชั่นยื่นตั๋วเครื่องบิน บอกว่านี่คือบาร์โคด์ของฉันเสร็จแล้วเขาจะขอเบอร์โทรที่อยู๋ของเรา เพื่อจะส่งของมาทีหลัง เราอยู่ในออสเตรเลียแล้ว