เจ็บป่วยในต่างประเทศต้องทำอย่างไร!!!

http://www.studysqr.com/  / เรียนต่อ / เรียนต่อต่างประเทศ / เจ็บป่วยในต่างประเทศต้องทำอย่างไร!!!
การเตรียมตัวก่อนเดินทางเผื่อเจ็บป่วยในต่างประเทศ
1. ประกันชีวิต – เวลาซื้อประกันชีวิตต้องคุยกับพนักงานให้เข้าใจว่าประกันที่เราซื้อครอบคลุมเรื่องเหล่านี้ด้วย
– ประกันจ่ายค่าการไปโรงพยาบาลมั๊ย? (กรณีโทรเรียกรถพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาล)
– เค้าจะจ่ายเงินค่าพบหมอให้เรารึเปล่า? (บางประเทศจะคิดค่าบริการแยกจากค่ายาซึ่งเราอาจจะต้องจ่ายเงินเบิกบานจนไม่อยากไปโรงพยาบาลได้)
– ถ้าเราไม่มีเงินออกค่ารักษาพยาบาลก่อนทางประกันจะช่วยเราได้ยังไง?
– มีเอกสารอะไรบ้างที่เราต้องเอาไปโรงพยาบาลให้หมอเซ็นต์เพื่อเอามาเบิกตอนกลับไทย?
– ถ้าเกิดอุบัติเหตุ เค้าจะจ่ายอะไรให้เราบ้าง? (รวมทั้งกรณีเสียชีวิตจะส่งศพกลับประเทศให้รึเปล่า?อันนี้ก็ต้องรู้ไว้ก่อนจ่ายเงินด้วย)
ไหนๆ ก็ต้องจ่ายเงินซื้อประกันชีวิตก่อนเดินทางไปต่างประเทศแล้วก็ซื้อให้คุ้ม เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่ได้ต้องคิดมาก ไปหาหมอได้เลย
2. ยาประจำตัว – อันนี้ก็จำเป็นสุดๆ สำหรัยคนที่แพ้ยาควรเขียนตัวยาที่แพ้ลงในพาสปอร์ตหรือเอกสารที่เราควรมีติดตัวไว้ เวลาฉุกละหุกจะได้ยาที่ไม่ทำให้เราป่วยมากขึ้นอีก
ส่วนยาอื่นๆ ที่เคยใช้บ่อยๆ ก็ควรหยิบติดตัวไปด้วย พวกยาที่เราไม่คิดว่าจะหาได้ในต่างประเทศยิ่งควรเอาไปด้วยมากๆ เช่น ยาดม ยาหม่อง (มาอังกฤษรอบนี้ไม่ได้เอามาด้วยพอไปเจอราคายาหม่อง 3 ปอนด์ (เท่ากับ 150 บาท) แทบจะเป็นลม) ยาแก้ปวดหัว ยาแก้เวียนหัว ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดท้อง ยาช่วยย่อย ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ
3. เสื้อผ้า – ถ้ามาประเทศหนาวๆ ควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ อุ่นๆ ติดมาด้วย เพราะคนไทยโตมากับอากาศร้อนเวลามาเจอกับอากาศหนาวต่ำกว่า 20 องศาก็อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันทำให้เจ็บป่วยได้ (ยิ่งมาอยู่ตอนหน้าหนาวที่อุณหภูมิติดลบยิ่งสะท้านไปทุกอณู) แม้ว่าจะมีฮีตเตอร์ช่วยปรับอุณหภูมิไม่ให้หนาวมากแต่ว่าฮีทเตอร์ก็ไม่ใช่แอร์ที่กดปุ๊บเย็นปั๊บ ฮีทเตอร์ต้องการเวลามากกว่านั้นในการเพิ่มอุณหภูมิห้อง แล้วเวลาที่เปิดฮีทเตอร์อากาศในห้องที่เราอยู่จะอบอ้าวไม่ใช่อบอุ่นจะส่งผลให้เกิดการปวดหัวตามมาได้ง่ายๆ (ยิ่งฮีทเตอร์ระบบแก๊สด้วยแล้วจะสร้างความวิงเวียนได้ระดับสุดยอด) ทางที่ดีควรมีเสื้อผ้าอุ่นๆ นุ่มๆ ไว้ใส่ในห้องพักจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้มาก
4. อาหารการกิน – ก่อนมาอยู่ต่างประเทศช่วยเรียนทำอาหารกับคุณแม่มาซักนิดจะช่วยชีวิตในต่างแดนได้มาก เพราะประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศไทยจะไม่มีค่านิยมกินอาหารนอกบ้านทุกมื้อเพราะว่ามันแพงแสบตับ ส่วนใหญ่ก็จะทำกินกันเอง ดังนั้นเด็กไทยที่คุ้นเคยกับการเดินออกนอกบ้านสั่งอาหารตามร้านต่างๆ จ่ายด้วยราคาเบาๆ จะเกิดอาการช็อคเวลาควักเงินจ่ายค่าข้าวราคาหนักหน่วงในต่างแดน แล้วก็ต้องกลับมาหัดทำกับข้าวเองแบบงงๆ ดังนั้นสารอาหารที่ได้รับในแต่ละมื้อจะไม่ค่อยครบถ้วน (เนื่องจากยังมั่วๆ จับนั่นผัดกับนี่โดยไม่ได้คิดถึงสารอาหารใดๆ) ทางที่ดีควรซื้อพวกวิตามินเสริมติดกระเป๋ามาซักนิด เพื่อความมั่นใจว่าช่วงแรกๆ ของการใช้ชีวิตในต่างแดนร่างกายเราจะยังได้รับสารอาหารครบถ้วน
——————————————————————————-
โรคภัยไข้เจ็บที่ควรระวัง
1. เจ็บเท้า – อาจฟังดูตลกแต่ว่าเวลามันเกิดกับตัวเราแล้วมันขำไม่ออกจริงๆ นะ เวลาเป็นแล้วจะเดินไม่สะดวก ไม่สามารถสัมผัสกับพื้นเย็นๆ ได้ เวลานั่งก็จะปวดปลายขามากๆ เวลานอนมักจะนอนไม่หลับเพราะรู้สึกเจ็บเท้าตลอดเวลา
สาเหตุ=เป็นเพราะว่าอากาศหนาวทำให้เลือดไปเลี้ยงตามปลายมือปลายเท้าไม่ทั่วถึง ทำให้บริเวณเท้าเกิดอาการชาและเจ็บขึ้นได้
วิธีรักษาเบื้องต้น=เอาเท้าแช่น้ำอุ่นเป็นพักๆ จะช่วยรักษาได้บ้าง ควรใส่ถุงเท้าหนาๆ ตลอดเวลา ไม่ควรสัมผัสพื้นที่ไม่มีพรมโดยตรง ควรมีรองเท้านุ่มๆ ไว้เดินในห้องด้วย
2. ไข้หวัด – โรคบ้านๆ ที่เป็นกันทุกคนไม่ว่าจะอยู่ไทยอยู่เทศ อาการทั่วไปก็ไอ จาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ บางคนโชคร้ายหน่อยอาจมีไข้ร่วมด้วย ส่วนมากไม่น่ากลัวอะไรยกเว้นไปติดพวกไข้หวัดใหญ่ H1N1 จัดหนักแบบนั้นต้องไปโรงพยาบาลสถานเดียว
สาเหตุ=อาจเพราะติดเชื้อหรืออาจเป็นเพราะร่างกายไม่แข็งแรงเลยเป็นหวัดขึ้นมาเอง อาจมีสาเหตุจากอากาศหนาวหรือการเปลี่ยนอุณหภูมิไปๆมาๆ เช่นเดินออกจากตึกเจออากาศหนาวจัดแล้วพอเข้าตึกเจอกับฮีทเตอร์ร้อนๆ
วิธีรักษาเบื้องต้น=นอนพักเยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ พวกน้ำผลไม้ก็ช่วยได้ ทานยาเท่าที่จำเป็นแต่ต้องทานให้ครบตามเวลา
3. ปวดหัว – อาจมีอาการปวดร้าวไปทั้งหัว หรือเจ็บแปลบๆ เป็นส่วนๆ บางคนอาจเกิดอาการไมเกรนขึ้นได้
สาเหตุ=หลากหลายมากเช่น เครียดจากการเรียน อาจเป็นอาการเบื้องต้นของหวัด พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่อย่างนึงที่อาจไม่ทราบกันคือ “เมาฮีทเตอร์” เวลาอยู่นห้องที่ร้อนอบๆ จากเครื่องทำความร้อนจะทำให้ปวดหัวเนื่องจากออกซิเจนไม่เพียงพอหรืออยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงเกินไปได้ง่ายๆ
วิธีรักษาเบื้องต้น=ทานยาแก้ปวดแล้วนอนหลับซักครู่จะช่วยให้อาการปวดหัวหายไป แต่ถ้าเกิดจากเมาฮีทเตอร์แนะนำให้เปิดหน้าต่างเพิ่งรับอากาศใหม่ๆ เข้ามาในห้อง (อาจต้องทนหนาวเล็กน้อย) ไม่ก็ออกไปเดินรับอากาศที่มีออกซิเจนมากขึ้นจะช่วยลดอาการปวดหัวได้
4. อาหารเป็นพิษและอาการท้องเสีย – ส่วนมากจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายท้อง รวมกัน จะทำให้ร่างกายเสียน้ำเยอะมาก อ่อนเพลียแต่ทานอาหารไม่ได้
สาเหตุ=ส่วนมากเกิดจากกินของผิดสำแดง อาหารที่กระเพาะไม่คุ้นเคย หรืออาหารที่ย่อยยาก ทำให้ร่างกายผลักอาหารเหล่านั้นออกมา
วิธีรักษาเบื้องต้น=ควรอาเจียนเอาหารที่เป็นพิษออกมาให้หมด ดื่มน้ำมากๆ ชดเชยส่วนที่ร่างกายเสียไป ถ้ามีเกลือแร่ให้ชงดื่มด้วย (ควรพกเกลือแร่จากไทยไปด้วย) พยายามกินอาหารอ่อนๆ ย่อยง่ายในช่วงต้น สลับกับกินผลไม้พวกส้ม กล้วย องุ่น ให้กระเพาะค่อยๆ กลับมาทำงานอีกครั้ง
5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ – เป็นโรคที่สร้างความรำคาญเพราะต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เวลาปัสสาวะจะมีอาการปวดเจ็บ และรู้สึกว่าปัสสาวะไม่สุด บางคนเป็นหนักถึงขั้นปัสสาวะเป็นเลือด
สาเหตุ=เกิดจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่เป็นได้ง่ายกว่าผู้ชาย หรืออาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะเป็นประจำ
วิธีรักษาเบื้องต้น=ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายขับเอาเชื้อโรคในกระเพาะปัสสาวะออกให้หมด หรือดื่มพวกน้ำแครนเบอร์รี่จะช่วยขับปัสสาวะได้ด้วย หากไม่เป็นมากอาการจะหายไปเองใน 3-5 วัน แต่ถ้ายังมีอาการอยู่ควรปรึกษาแพทย์
6. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ – ส่วนมากจะเป็นที่ขามากกว่าแขน รู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณน่องหรืออาจลามไปถึงเท้า
สาเหตุ=อาจเพราะเดินมากเกินไป เนื่องจากคนไทยไม่คุ้นเคยกับการเดินนานๆ เวลาที่ต้องเดินบ่อยๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักกว่าปกติจนเกิดอาการอักเสบได้
วิธีรักษาเบื้องต้น=ควรเดินช้าๆ อย่ารีบมากให้กล้ามเนื้อมีเวลาคลายตัว อาจประคบน้ำอุ่นบริเวณที่เป็นหรือทายาหม่องช่วยในเบื้องต้น
7. อาการชา – มักจะเกิดที่บริเวณปลายมือปลายเท้า มีอาการชาไม่สามารถรับรู้หรือขยับได้ตามปกติ อาการคล้ายๆ เวลาเกิดเหน็บชาแต่ว่าอาการชาไม่จางหายไปใน 5 นาที
สาเหตุ=ขาดวิตามินB กินอาหารไม่ครบ ร่างกายขาดวิตามินจำเป็น
วิธีรักษาเบื้องต้น=ไม่ต้องตกใจเวลาที่เกิดอาการชาแล้วไม่หาย ควรขยับมือหรือขาเบาๆ ให้เลือดไปเลี้ยงส่วนนั้นได้ทั่วถึง จากนั้นต้องกินอาหารให้ครบ อาจกินวิตามินเสริมทดแทนส่วนที่อาหารให้ไม่ได้
8. โรคกระเพาะอาหาร – มีอาการปวดท้อง แน่น จุก เสียด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อุจจาระผิดปกติ
สาเหตุ=เครียด กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือติดเชื้อ มีแผลในกระเพาะอาหาร
วิธีรักษาเบื้องต้น=ควรไปพบแพทย์เนื่องจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบควรมีแพทย์เฉพาะทางดูแล วิธีเบื้องต้นคือกินอาหารย่อยง่ายๆ กินให้ตรงเวลา
9.ประจำเดือน – อันนี้สำหรับผู้หญิง เนื่องจากอากาศหนาวเลือดลมอาจจะผิดปกติทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีอาการเจ็บท้องมากกว่าที่ไทย
สาเหตุ=ความหนาว ความเครียดจากการปรับตัว (บางคนอาจเกิดอาการแพ้ผ้าอนามัยของต่างประเทศยังไงก็พกอันที่ใช้ได้จากไทยมาซักหน่อยเผื่อๆ)
วิธีรักษาเบื้องต้น=ควรนอนพักเยอะๆ กระเป๋าน้ำร้อนช่วยเราได้เสมอ พยายามเดินบ่อยๆ ให้เลือดออกสม่ำเสมอไม่ตกค้าง
ติดต่อเรา
Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 Thailand
Tell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)
Email :studysquares@hotmail.com
Face Book : https://www.facebook.com/Studysquare.co.th/,
https://www.facebook.com/sqstudyabroad/
 Twitter :https://twitter.com/aittit

Google Plus

Youtube

Line ID : krittapas_st
Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น